บ้านหลังใหญ่ + ชองเล่นเยอะมาก
และเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่ต้องการเลี้ยงเจ้าแฮมสเตอร์ตัวน้อยๆ
แฮมสเตอร์ตัวน้อยๆ
ปฏิทิน
ค้นหาข้อมูลเจ้าตัวน้อย คลิกเลย!!!!
วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554
มารู้จักแฮมเตอร์สายพันธุ์โรโบรอฟสกี้กันเถอะ
สายพันธุ์โรโบรอฟสกี้แฮมสเตอร์
สาย พันธุ์นี้ถือเป็น สายพันธุ์ แฮมสเตอร์แคระที่เล็กที่สุดก็ว่าได้ครับ คือ โตสูงสุด มีความยาวโดยประมาณ 2 นิ้วครับ เป็นหนูที่มีขนสั้น นุ่ม ซึ่งเจ้า โรโบรอฟสกี้ นี้เป็นสัตว์พื้นเมือง ของจีน มองโกเลีย รัสเซีย แต่ในปัจจุบันนี้ ขนาด ตัวของเจ้าโรโบ ก็แตกต่างกันไปอยู่ที่ผู้ เลี้ยงสะส่วนใหญ่ครับ บางท่านเลี้ยงดี ก็อาจจะโต หรือ สมบูรณ์ หน่อยคับ ส่วนคนที่เลี้ยงไม่ค่อยดีก็อาจจะตัวเล็กแกรนครับ
เจ้า หนู โรโบรอฟสกี้นี้ เป็นหนูที่ค่อนข้าง วิ่งเร็ว ครับ เป็นสัตว์ที่แทบจะขี้ตกใจง่ายครับ แต่ก็ไม่ใช่ พันธุ์ ที่จะกัด หรือ ดุเหมือน เจ้า แคมป์เบล ครับ แต่จะไม่ได้ให้เราจับง่ายๆเหมือนดั่ง วินเทอร์ไวท์ ครับ อ่านๆอย่าพึ่งงง นะคับ อิอิ
จะเป็นสีออกสีทอง สี น้ำตาล สีจะเป็นสีไล่ๆ กันระหว่าสีเข็มไปจนถึงจางๆลงไปครับ จะมีเส้นหนวด ที่ยาว ตากลมโต สีดำ ครับถ้าดูดีๆ เจ้าหนูชนิดนี้ เหมือนเป็น หนูที่มีคิ้วที่ เห็นได้ชัดเลยครับ ส่วนเรื่องสี นั้นในปัจจุบันนี้ ได้มี โรโบ หลายสีหลาย สายพันธุ์ ย่อย ลงมาครับ
อาทิเช่น
- โรโบรอฟสกี้
- โรโบรอฟสกี้หน้าขาว
- โรโบอีสเบล
- โรโบไวท์
ที่จริงแล้วสามารถผสมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นสีใหน แต่ขอให้เป็น โรโบเท่านั้น แต่การผสมเช่นนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยครับ เพราะจะทำให้ สีของเจ้าโรโบเพี้ยน และ สีไม่นิ่ง ที่บอกว่าสีไม่นิ่ง หรือ จะเรียกอีกอย่างว่า ยังไม่แท้ คับ ดังนั้นถ้าจะให้แน่ หรือ ถ้าจะเพาะพันธุ์เจ้าสายพันธุ์นี้หละก็ ผมแนะนำให้ ใช้สีดีเดียวกันผสมกัน ดีกวา่คับ เพื่อความเข้มข้นของสี ที่เราผสมออกมาครับ
โดยทั่้วๆไปแล้ว บางท่านก็จะบอกว่า โรโบ ออกลูกยาก แต่สำหรับ บางท่านก็อาจจะบอกว่า ไม่เห็นจะยากเลย
เจ้าโรโบ ในช่วงที่ผมเพาะเลี้ยง จะว่ายากก็ยากครับ จะว่าง่ายก็ง่าย คือ ถ้าเราสามารถทำสภาพ กรง และ สภาพแวดล้อม ให้สดวก สบาย ตามแบบที่เขาชอบได้ และ เข้าได้คู่้ที่ถูกใจ แล้ว ก็คงจะไม่ยากที่จะมีลูกๆให้เราครับ สำหรับตัวใหน ที่จับคู่แล้ว ออกลูก เดี๋ยวอีกไม่นาน ก็จะออกอีกครับ อ่อรวมไปถือ อาหารการกินด้วยครับ ทุกอย่างดีสมบูรณ์ ยังไงก็น่าจะออกลูกให้เห็นบ้างหละครับ
ลักษณะ ที่สามารถสังเกตได้อีกอย่างคือ บริเวณ ปาก ขา ท้อง และ ส่วนของ หาง จะเป็นสีขาวครับ คิ้วก็มีคับ จะเป็นสีขาวแต้มๆ หน่อยครับส่วน ตัวจะไม่มีลาย บาลำตัวครับ ขนด้านในก็จะเป็นสีเทาๆครับ
ที่อยู่อาศัย ในธรรมชาติ
จะเป็นสัตว์ ที่พบได้ แถบทะเลทราบ หรือ บริเวณที่แห้งแล้ง การสัตว์จำพวกนี้ จะใช้การขุดโพรง เป็นที่อยุ่อาศัย ครับ โดยข้างในจะเป็นรังของเขา และก็จะมีวัสดุปูพื้นอาจจะเป็น พวกเศษหญ้า และ ก็ยังเป็นที่เก็บสะสมอาหาร อีกด้วยครับ แต่ถ้าสำหรับเราแล้ว ก็ไม่ต้องเลี้ยงแบบแห้งแล้ง นะครับ เพราะว่า เจ้าโรโบที่เราเลี้ยงๆกันอยู่ ไม่ได้ เติบโตมาในธรรมชาติ ดังนั้น ความแข็งแรง หรือ ลักษณะนิสัย จะต่าง การเอาตัวรอด รวมถึง ภูมิป้องกันโรค ก็ต่างกันครับ ยังไงก็ต้องเลี้ยงดีๆ มีอาหาร น้ำ ให้ครับจะดีที่สุดครับ
บางคนบอกว่า เจ้าโรโบกัด
อันนี้ แน่นอนครับ สัตว์ทุกชนิดย่อมกัด แต่โดยปกติ เจ้าโรโบ จะเป็นสายพันธุ์ ที่ไม่ดุนะครับ แต่ก็ต้องมีบ้างครับที่จะกัด ถ้าโดยประมาณ 100 ตัว จะเจอกัดสัก 3-5 ตัวเท่านั้นแหละคับ ไม่ได้พบเจอกันได้บ่อยๆ และอีกกรณี หนึ่งที่กัด ก็อาจจะเป็นการตกใจ หรือ เขารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยครับ บางท่านอาจจะจัีบเขาแรง เกินไป เพราะสัตว์พันธุ์นี้ ค่อยข้างไว จับแบบ ประคอง คงงจับกันไม่ได้แน่ๆครับ แต่สำหรับผม ผมว่า เจ้าสายพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ ที่น่ารักอีกเช่นกันครับ ^^
โรโบอิสเบล
อิสเบล หน้าขาวๆ ไรขนชั้นในสีดำเข้ม ขนชั้นนอกจะออกเป็นโทนสีส้ม(ค่อนข้างเข้ม) ตั้งแต่ส่วนหัวจนถึงก้นเลยและจะสามารถปกคลุมไรขนชั้นในที่เป็นสีดำได้หมดจากประสบการณ์ที่เลี้ยงมา ขนของอิสเบลจะมีความนุ่มสลวย และยาวกว่าโรโบธรรมดาเล็กน้อย
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับโรโบแต่ละสี เดี่ยวผมจะอธิบายให้อีกทีในหัวข้อง สีย่อยๆลงไปอีกทีนะครับ นะครับ
โรโบธรรมดา
วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554
เมื่อเจ้าตัวน้อยตั้งท้องจะบำรุงอย่างไร
อาหารสำหรับบำรุงแม่หนูตอนตั้งท้อง |
เราควรบำรุงแม่หนูที่ตั้งท้องเพื่อที่ลูกที่ออกมานั้นจะได้ แข็งแรงสมบูรณ์ อาหารที่จะแนะนำนะและ ช่วงหน้าร้อนระวังหน่อยนะเพราะอาจจะทำให้แม่หนูท้องเสียได้ เราควรให้ของที่สะอาดและใหม่ ไม่ใช่เอาของที่เหลือ หรือที่เก็บไว้นาน
|
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554
อากาศร้อนทำอัตรายกับเจ้าตัวน้อยได้
อันตรายจาก อากาศร้อน |
เมื่ออากาศร้อนปัญหาต่างๆอีกมามายก็จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นท้องเสียขนร่วง หรืออะไรอีกมากมายจะขอแนะนำโรคอีกโรคครับคือโรค ลมแดด ครับ ใครว่า โรคนี้จะเป็นแต่ในคน โรคนี้ก็เป็นในหนูแฮมส เตอร์ได้เหมือนกันนะ โดยถ้าอากาศร้อนจะเกินไป ยิ่งช่วงหน้าร้อนเพื่อนๆบางคนอาจจะต้องเตรียมตัวกับปัญหานี้กันไว้นะ โดยเรื่องที่ หนูแฮมสเตอร์ ร้อนตาย เกิดขึ้นอยู่ทุกๆปี ลมแดด การที่เราพาหนูแฮมสเตอร์ไปเดินเที่ยวหรือเราไปไหนก็พา เขาไปด้วยและถ้าพาไปในที่ๆอากาศร้อนๆละก็ อาจจะเป็น ลมแดดได้ จะมีเหงื่อตรงคอ จนทำให้ขนตรงคอเปียกครับส่วนวิธีแก้ร้อนนะ ก็ หาน้ำแข็งมาให้มันโดยใส่ถุงไว้ก็ได้ แล้วเอาไปใว้ในกรงที่หนูแฮมสเตอร์อยู่หรือน้ำเย็นๆก็ได้เท่านี้ก็ ช่วยแก้ปัญหาอากาศที่ร้อนได้แล้วนะแต่ถ้าจะให้ดีอย่าพาเจ้าหนูแฮมสเตอร์ไปไหนในเวลาที่อากาศร้อนดีกว่านะเมื่ออากาศร้อน อย่างแรก เลยที่เราสามารถสังเกต เห็นได้ชัดเลยก็คือตรงบริเวณใต้ คอ ของ เขา จะมีน้ำ ออกมามาก จน เปียก บริเวณใต้คอซึ่ง ถ้าหากเพื่อนๆ ปล่อยเขาไว้ อย่างนั้นก็อาจจะ ทำให้เขา ตายได้ เนื่องจากอากาศร้อนได้ หรือจะสังเกตได้อีกอย่างก็คือ เขาจะนอน ร้อง จิ๊กๆ เบาๆ บ่อยๆอาการเช่นนี้ก็อาาจะมาจากอากาศร้อนก็อาจจะเป็นได้ เคยได้ยินเพื่อนๆ ใช้วิธีแก้ภัยร้อน ของเจ้าหนูแฮมสเตอร์ หลายวิธีมากนอกเหนือจากที่ แนะนำไปนะอย่างเช่น เอาผ้าไปแช่ ให้เย็นแล้วก็เอามาวางในบ้านหนู หรือไม่ก็ เอาก้อน อิฐ ไปแช่น้ำ แล้วเอามาวาง หรือจะเป็นการเอาน้ำ มาหล่อ บริเวณใต้กรง ก็อาจจะทำได้ ยังไงเพื่อนๆ ก็ลอง ทำกันดูนะ ได้ผลอย่างไรเอามาบอกกันบ้างนะ |
รู้ไหมว่า แฮมเตอร์ ก็ (เอ๋อ) ได้
หนูแฮมสเตอร์ เอ๋อ !!! |
ฟังดูแล้วอาจจะดูแปลกๆนะครับ หนูแฮมสเตอร์ อาการอย่างไรเรียกว่าเอ๋อ ลักษณะ อาการโดยทั่วไปแล้ว เขาจะเดินเอียงๆ เหมือนกับว่าหูเขานั้น หนัก ไปข้าใดข้างหนึ่ง หรือ ไม่ก็อาจจะเป็นประเภทที่ว่าหนูวิ่งเป็นวงกลม วิ่งวนอยู่เป็นวงกลม แบบไม่หยุด หรือไม่ก็ หนูบางตัวก็อาจจะ ตีลังกาได้ เพื่อนๆฟังดูอาจจะไม่เชื่อ แต่เขาตีได้จริงๆ กลับหลังด้วยครับ บางตัวเหมือนจะได้รับการฝึกมาอย่างดี ตีกลับหลังและ ลงสู่พื้นอย่างสวยงาม อิอิ ที่มาของอาการ หนุแฮมสเตอร์ ที่มาการดังกล่าว ( เอ๋อ ) มีสาเหตุอยู่หลายๆอย่าง ที่ทำให้เขาเป็น เช่นนั้น อย่างแรกเลยก็ อาจจะมาจาก พ่อและแม่ที่มี สายเลือด ที่ชิดกันมาก ลูกที่ออกมาถึงเอ๋อ หรือ ไม่แข็งแรงและ สมบูรณ์ หรือไม่ก็อาจจะมาจาก การที่หนูเกิดความเครียดมากๆ อยู่ในที่แคบๆ ก็มี % เหมือนกันหรือไม่ก็ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง วิธีการรักษา โรค เอ๋อ นี้ รักษาให้หายยากครับ ส่วนมากหนู ที่เป็นโรคนี้ จะเริ่มจากการเป็นนิดเดียว และก็ เพิ่ม ขึ้นเรื่อยๆ เช่น จากการเดินเอียงๆ หรือ เงยหน้าแล้วก็หงายหลัง แล้วก็มาเป็น ตีลังกาได้ ซึ่งตอนนี้ รู้สึกว่า จะพบเจอบ่อย อาจจะเป็นเพราะว่าการที่เราเอาพี่ น้องมาผสมกันหลายๆครั้ง หรือ ไม่ก็ การที่เอา หนูที่ต่างสายพันธุ์มาผสมกันจึงได้ลูกที่ออกมามีสภาพร่างกายที่เป็นแบบนั้น เลือดชิดคืออะไร เลือดชิด บางคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจกับ คำพูดและความหมายของคำนี้ เลือดชิดก็คือ ตัวผู้ และ ตัวเมียที่เราเอามาผสมกันนั้น มีสายเลือด ที่ไกล้เคียงกัน ก็คือ การที่ เอา พ่อ + ลูก หรือ พี่ + น้อง ภายในคลอกเดียวกัน บางครั้ง ในคลอกอาจจะไม่แสดงออก ว่าพิการหรือไม่ เพราะว่า ส่วนมาก เราผสมกัน ชิดกันครั้งแรกปัญหาอาจจะมีน้อย แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเลยนะ เพราะว่า สิ่งที่เราอาจจะเจอก็ พวกโรคเอ๋อ เนี่ยแหละ โดยถ้าชิดกันมาก ปัญหายิ่งมีมาก แต่ก็ใช่ว่า ชิดน้อย จะไม่เจอปัญหาใหญ่นะบางคนอาจจะเจอ ลูกหนูที่แคระแกรน ตาบอด ลูกหนูตาย แม่หนุคลอดไม่ออก ขาไม่มีแรง ขนร่วงและอื่นๆอีกมากมายที่ อาจจะเจอจากการผสมกันระหว่างเลือดสายเดียวกัน บทความนี้ เป็นลิขสิทธิ์ ของทางเว็บ : www.hamsteronline.com |
ของเล่นสำคัญกับเจ้าตัวน้อยอย่างไร
ความสำคัญสำหรับของเล่นแฮมสเตอร์ |
เพื่อนๆหลายคนที่อยาก จะหาของเล่นให้เจ้าหนูแฮมสเตอร์ขอเดานะว่า ส่วนหนึ่งที่คุณเลือกซื้อก็เพราะว่า อยากที่จะเห็นเจ้าหนูแฮมสเตอร์ ต่างๆนั้นเล่น ของเล่นที่คุณนั้นซื้อมา และ เช่น วงล้อ เพื่อนๆบางคนอาจจะ อยากเห็นมันวิ่งเพราะไม่เคยเห็นความรู้สึกนี้เคยเป็นมาก่อน ตอนเริ่มเลี้ยงใหม่ๆ ก็อยากที่จะซื้อ โน้น ซื้อนี่ มาให้หนูที่บ้านเล่น แต่ของเล่นของหนูต่างๆนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีความจำเป็น ไปเลยนะเรามาดูประโยชน์กันดีกว่า ของเล่นของหนูบางอย่างเมื่อเราเอามาใส่ในกรงแล้ว อาจจะใช้เนื้อที่ในกรงไป มาก แต่อย่างน้อยก็เพื่อความสุขของหนูที่เราเลี้ยง ถ้าเรามีของเล่นไว้ให้เขา เขาก็จะไม่เบื่อ ไม่เครียดเพราะ หนูเป็นสัตว์ที่ ซน ชอบการปีนป่าย วิ่ง กระโดด
|
วิธีดูเพศเจ้าตัวน้อย
สำหรับเพื่อนๆบางคนที่ซื้อหนูแฮมสเตอร์มาเลี้ยงแล้วแต่ก็ยังไม่รู้ว่าหนูตัวที่บ้านนั้นเป็นเพศผู้ หรือ เพศเมีย ศึกษากันได้เลยครับผมได้เอารูปหนูทั้งเพศผู้ และ เมียมาให้ดูกัน ก่อนอื่น ผมจะอธิบายลักษณะของตัวผู้ก่อนนะถ้ารดูจากรูปด้านข้างและด้านล่างก็อาจจะเห็นได้ชัด โดยรูปทั้ง 2 รูปนี้บอกตรงๆว่าดูได้ง่ายมากโดยถ้าดูแบบหลักวิชาการนะ ก็จะสังเกตกันตรงก้น โดยตัวผู้นั้น จะมีรูอยู่ 2 รู ห่างกันออกคับและก็จะสีถุงป่องๆห้อยออกมาครับถุงนั้นแหละคับเป็น อันทะของเขาครับโดยจะป่องออกมาอย่างเห็นได้ชัดครับยิ่งตัวล่างยิ่งชัด แต่อาจจะดูที่ถุง เเพราะว่าถ้าเป็นตัวเมียจะไม่มีถุง ออกมาเลย แม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเวลาเดินตัวผู้ก็ จะเห็นเหมือนด้านหลังห้อยๆ ข้อดีของการ มี ไข่ ที่เป็นถุง ยื่นออกมานั้น เป็นไข่ของหนูแฮมส กล่าวกันว่าหนูแฮมสเตอร์ตัวใหนมีไข่ที่ใหญ่ก็จะผสมเก่งอันนี้ว่าจะเก่ยวก็เกี่ยวนะเพราะว่าถ้าหนูแฮมสเตอร์ ตัวใดไม่มีใข่เลยแบบติดกันเลยก็ อาจจะผสมยากสักหน่อยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี % ที่จะผสมติดเลย ก็ยังมี % อยู่ ดังนั้นการเลือกซื้อก็ควรเลือกตัวที่มีไข่ เพื่อนๆบางคนอาจจะไม่ชอบก็เลือกแบบที่ไข่หลบก็ได้ ก็ยังสามารถผสมได้เหมือนกัน นอกสะจาก ไข่ที่ไม่มีเลย อันนั้นน่าเป็นห่วง ต่อไปมาดูตัวเมียยกันนะ ตัวเมีย มีข้อสังเกต เพิ่มมาอีกอย่างครับคือนมถ้าเป็น ตัวผู้จะเห็นนมไม่ค่อยชัด แต่ถ้าเป็นตัวเมียนั้นจะเห็นได้ชัดมากกว่า ยิ่งถ้าเป็นเวลาที่ท้องก็จะเห็นได้ชัดมากส่วนตรงที่ผมวงกลมไว้นั้น เป็น รูปตัวเมียจะมี รูที่ติดกันจนอาจจะดูได้ว่าเป็น รูเดียวกันเลยก็ว่าได้ เพื่อนๆลองเปลี่ยบเทียบดูได้ระหว่างรูปด้านบน ที่เป็นตัวผู้และรูปข้างขวามือผมนี้เป็นตัวเมียรูปแบบอวัยวะเพศของเขา แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากในรูปนี้ผมเอามาคิดว่าน่าจะท้อง นะ ก็เลยเห็นชัดกว่าปกติ ไงก็ ต้องขอขอบคุณเจ้าของรูปทั้งหมดนี้ด้วย บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ : www.hamsteronline.com |
วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554
จอมแทะ
หนูแฮมสเตอร์จอมกัดแทะ |
สำหรับหนูแฮมสเตอร์ หรือหนูชนิดต่างๆนั้นเรื่องการกัดแทะคงจะเป็นเรื่องธรรมชาติเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกเลยที่ อุปกรณ์ต่างๆภายในกรงเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์นั้นจะมีรอยของการกัดแทะ หรือเกิดความเสียหาย ยิ่งสำหรับกรงที่มีหนูอยู่ด้วยกันจำนวนมาก อุปกรณ์ต่างๆก็จะ สึกกร่อนได้ไว 1. การกัดแทะของหนูแฮมสเตอร์ โดยส่วนมากอุปกรณ์ที่มักจะโดนกัดก็คงไม่พ้น อุปกรณ์ตกแต่งกรง เช่นขอนไม้ต่างๆหรือแม้กระทั่งที่วิ่งก็อาจจะโดนกัดอยู่กัน หนูบางตัวก็อาจจะกัดกรงด้วยก็อาจจะเป็นได้ 2. สาเหตุของการกัดแทะกรง เป็นได้หลายสาเหตุ คือ หนูบางตัวอาจจะอยากออกไปวิ่งเล่นข้างนอกกรง หรือ อึดอัด กับการอยู่ในที่ๆเดิมๆ ครับดังนั้นการนำหนูแฮมสเตอร์ออนมาเดินเล่นข้างนอกกรงก็ช่วยให้หนูแฮมสเตอร์ของเพื่อนๆนั้นอารมณ์ดีด้วย 3. กัดกรงเนื่องจากลับฟัน ฟันของหนูแฮมสเตอร์นั้นมีการงอกยาวตลอดเวลา ดังนั้นการกัดแทะสิ่งต่างๆภายในกรง หรือ กัดกรงก็ด้วยครับช่วยให้ฟันของเขาไม่ยาวจนเกินไปครับ ซึ่งก็มีอุปกรณ์ที่เป็นไม้ลับฟัน หรือ ก้อนเกลือใช้สำหรับลับฟันหนูแฮมสเตอร์ขาย แต่ถ้าเราไม่มีตรงส่วนนี้ให้ก็จะไม่ค่อยมีผลกระทบมากสักเท่าใหร่เพราะว่า โดยส่วนใหญ่หนูก็แทะเกือบทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว 4. ก้อนเกลือแร่ สำหรับกัดแทะ โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นก้อนเกลือแร่ของนก เอามาให้หนูแฮมสเตอร์แทะ ลักษณะจะเป็นก้อนสีขาวแล้วด้านหนึ่งจะมีลวด ไว้สำหรับผูกหรือว่ามัดไว้กับกรง >>>>>> แนะนำนิดหน่อย สำหรับคำถามที่ว่า จำเป็นต้องมีใหม ไม่มีก้อนเกลือแร่ ได้ใหม ขอตอบว่า ได้ครับ ไม่มีสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่ว่าหนูแฮมสเตอร์จะฟันยาวจนไม่สามารถกินอาหารได้ เพระาว่า หนูแฮมสเตอร์นั้นจะกัดแทะพวกเศษอาหาร กรง หรืออุปกรณ์ข้างในกรงอยู่แล้ว บทความนี้ เป็นลิขสิทธิ์ ของทางเว็บ : www.hamsteronline.com |
แฮมเตอร์อาบน้ำอย่างไร
>>>>> วิธีอาบน้ำเจ้าแฮมสเตอร์น้อย <<<<< ห้ามจับหนูแฮมสเตอร์ อาบน้ำโดยเด็ดขาด ซึ่งผู้เลี้ยงหลายๆท่านมีความเข้าใจที่ผิด และจับหนูแฮมสเตอร์อาบน้ำต้องบอกก่อนนะ ว่าการอาบน้ำของแฮมสเตอร์ก็คือการนำทราย ให้เขาคลุกตัว ไม่ใช่การจับไปอาบน้ำเหมือนพวกสุนัข เพราะการอาบด้วยทรายเป็นวิธีที่ปลอดภัยแก่แฮมสเตอร์มากที่สุด หนูแฮมสเตอร์ ชอบทำความสะอาดตัวอยู่เสมอ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นเลยที่เราจะจับเจ้าน้องหนูอาบน้ำการอาบน้ำหนูอาจทำได้ โดยการใช้ทรายอาบน้ำ หรือถ้าเจ้าหนูแฮมสเตอร์ตัวเหม็นละก็อาจจะเกิดจากที่เจ้าหนูไปนอนทับฉี่ของเขาเอง เราก็อาจจะทำได้โดยการเปลี่ยนขี้เลื่อย ล้างกรง ทำความสะอาดกรง ก็แค่นี้ละแล้วก็เอาทรายอาบน้ำให้น้องหนู คลุก แค่นี้ก็ดับกลิ่นฉี่ที่ติดตัวเจ้าหนูแฮมสเตอร์ได้แล้ว การอาบน้ำถ้าเราจำเป็นต้องอาบ ถ้าเราจำเป็นต้องอาบน้ำนะครับ ขอแนะนำให้ใช้ ผ้าชุบน้ำ เช็ดจะดีกว่าครับ เพราะแป้งมีสารเคมีเจือปนอยู่ อย่างน้อยก็สารที่ทำไห้เกิดกลิ่น ไม่อย่างนั้นแป้งเราจะมีกลิ่นได้ไง การทำความสะอาดที่เจ้าแฮมสเตอร์ทำอยู่บ่อยๆ เพื่อนๆเคยสังเกตหรือไม่ว่า แฮมสเตอร์ชอบลูบขนของเขาอยู่บ่อยๆ นั่นแหละครับคือการอาบน้ำของเขา โดยเจ้าหนูแฮมส นี่จะเอามือไปแตะน้ำลายแล้วเอามาลูบๆตามตัว |
วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ประวัติหนูแฮมสเตอร์
แฮมสเตอร์เป็นสัตวจำพวกฟันแทะ(Rodent) ขนาดเล็ก สัตว์ในจำพวกนี้ได้แก บีเวอร์ กระรอก กระต่าย และชินชิลล่า เป็นต้น ย้อนไปเมื่อ ปีพ.ศ. 2382 ได้มีการค้นพบแฮมสเตอร์พันธุ์ซีเรียสีทองที่ประเทศซีเรีย โดยนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ และได้นำกลับไปยังสวนสัตว์ลอนดอน จากนั้นก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นแฮมสเตอร์ในธรรมชาติอีกเลย จนบางคนคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว ต่อมา แม่แฮมสเตอร์และลูกๆอีก 12 ตัวได้ถูกพบที่บริเวณประเทศซีเรียอีกเช่นเคย โดย Professor I.Aharoni จาก Hebrew University เมืองเยรูซาเล็ม ครั้งนี้พวกมันถูกพาตัวไปยังเยรูซาเล็ม แต่ก็เหลือรอดเพียง 3 ตัวเท่านั้น คือตัวเมีย 2 ตัว และตัวผู้อีก 1 ตัว และนี่ก็คือบรรพบุรุษทั้ง 3 ของแฮมสเตอร์เลี้ยง ซึ่งได้ทำหน้าที่สืบเผ่าพันธุ์น่ารักๆไว้ให้เราได้รู้จักกันในปัจจุบัน ในระยะแรกๆ แฮมสเตอร์เข้าสู่ประเทศอังกฤษ และประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนักวิทยาศาสตร์ใช้เป็นสัตว์ทดลองทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น กระทั่งมีผู้เห็นว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดู จึงเริ่มนำออกมาเลี้ยงเป็นสมาชิกตัวหนึ่งในบ้าน และได้รับความนิยมในหมู่ผู้รักสัตว์เลี้ยงตั้งแต่นั้นมา
ท่าทางของแฮมสเตอร์ ตัวน้อยๆ
นอกจากเสียงร้องแล้ว ท่าทางของเจ้าตัวน้อยก็เป็นการสื่อสารอีกอย่างหนึ่ง
ที่มันต้องการทำให้เราเข้าใจมัน
ที่มันต้องการทำให้เราเข้าใจมัน
.....
เราซักอย่าง
......
......
......
......
ความสะอาดบริเวณหัว
......
......
......
......
โมโหจัดๆ
......
......
ของมัน เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู
......
......
ท้องและร้อง แต่ถ้าตัวเมียยอมมันจะยกก้นขึ้นให้ตัวผู้ทับ
......
......
ตีสนิท และ ผูกมิตรกะเจ้าตัวน้อย
ก็จะมีนิสัยแตกต่างกันออกไป บางตัวร้อนก็นอนหงาย บางตัวก็ชอบเล่นน้ำ และบางตัวก็งอแงร้องอิ๊ดๆ ซึ่งเราช่วยมันได้โดยเปิดพัดลมให้ หรือให้มันกินน้ำแข็ง
ให้แกนกระดาษทิชชู มันก็จะเข้าไปนอนข้างใน อาจเป็นเพราะ มันชอบที่มืดๆ ก็เป็นได้ มันจะได้นอนหลับอย่างสบายใจ และรู้สึกปลอดภัยแกตัวมัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)